แม็ค แม็กคลั้ง กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์บาสเกตบอลเอ็นบีเอ ที่คว้าแชมป์สแลมดังก์ 2 ปีติดต่อกัน ในการแข่งขันออล-สตาร์เกม ที่อินเดียนาโปลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังทำ 50 แต้มเต็มในการกระโดดดั๊งก์เหนือชาคิล โอนีล
แม็กคลั้ง ผู้เล่นเจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ดั๊งก์ทำ 50 คะแนน ก่อนจะเอาชนะเจย์เล่น บราวน์ของบอสตัน เซลติกส์ ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้เขาเป็นคนที่ 5 ต่อจาก แซ็ก ลาวีน (2015-16), เนต โรบินสัน (2009-10), เจสัน ริชาร์ดสัน (2002-03) และไมเคิ่ล จอร์แดน (1987-88) ที่คว้าแชมป์สแลมดังก์สองปีติด
ทางด้าน ดาเมียน ลิลลาร์ด การ์ดของ มิลวอกี บักส์ ป้องกันแชมป์ชูตไกลสามแต้มเอาไว้ได้สำเร็จเช่นเดียวกัน หลังจากที่ในรอบสุดท้าย ชู้ตได้ 26 คะแนน เฉือน เทร ยัง ของ แอตแลนตา ฮอว์กส์ ที่ทำได้ 24 คะแนน ทำให้ ลิลลาร์ด เป็นผู้เล่นคนที่ 8 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้แชมป์อย่างน้อย 2 สมัย และเป็นคนแรกนับตั้งแต่ เจสัน คาโปโน ที่ป้องกันแชมป์ได้ในปี 2007 และ2008
ขณะที่อีกสองรายการที่เหลือ ทีมเพเซอร์สที่ประกอบไปด้วย ไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน, เบนเนดิคท์ มาตูริน และไมล์ส เทอร์เนอร์ คว้าแชมป์ สกิลล์ส ชาลเลนจ์ และสตีเฟ่น เคอร์รี การ์ดจอมแม่นของ โกลเด้น สเตต วอร์ริเออร์ส คว้าแชมป์ประลองความแม่น ในการดวลกับ ซาบรินา อิออเนสคู นักบาสเกตบอลหญิง จากศึกดับเบิ้ลยูบีเอ ทีมนิวยอร์ก ลิเบอร์ตี้ โดย เคอร์รี ชนะไป 29 ต่อ 26 คะแนน
ทั้งนี้ อิออเนสคู กล่าวถึง เคอร์รี ว่าเป็นไอดอลของเธอมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ “ฉันมีรูปนี้นะ ฉันคิดว่าฉันน่าจะประมาณ 10 ขวบ และกำลังไฮไฟว์กับเขา (เคอร์รี) ที่ทางเข้าอุโมงค์ แน่นอนที่สุด การที่ฉันมาจาก เบย์ แอเรีย ดังนั้นเขาคือผู้เล่นที่เป็นไอดอลของฉันในช่วงที่กำลังโตขึ้นมา”
“สำหรับฉัน การแข่งนี้มันยิ่งกว่าการดวลการชู้ต ฉันคิดแบบนั้นเพราะฉันแทบไม่เคยคิดเคยฝันกับโอกาสที่จะได้อยู่ในคอร์ทและสนามเดียวกับคนที่ฉันจ้องมองมาตลอดตั้งแต่ 10 ขวบ เพราะแบบนั้นมันทำให้ฉันรู้ตัวว่า ตอนนี้ฉันอยู่ตรงจุดไหนแล้ว และมันเหมือนโอกาสที่จะได้ไปเล่นแทนพวกเธอ (ผู้เล่น ดับเบิลยูเอ็นบีเอ) ด้วย”