“โค้ชต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ ร่วมมือกับ ม.อัสสัมชัญ (เอแบค) เปิดโครงการฝึกอบรม “ผู้ฝึกสอนสนุกเกอร์อาชีพ” ครั้งที่ 1 เพื่อต่อยอดไปสู่ระดับชาติ เริ่มต้นตั้งแต่เบสิกพื้นฐานจนก้าวไปสู่โค้ชอาชีพเลเวล 1-3 แยกเป็นทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ รวมไปถึงการเอา “จิตวิทยา” มาใช้เอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน ตลอดจนการเรียนรู้ธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาสอยคิวที่มีมูลค่ามหาศาลในแต่ละปีมหาศาล
นายชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ หรือ “โค้ชต่าย พิจิตร” อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดลุยศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 หรือ “ฮานอยเกมส์ 2021” ได้จับมือร่วมกับ นายอดิศักดิ์ เสนาะจิต กรรมการผู้จัดการ สปอร์ตสเปเชียลลิส และ ผศ.ดร.กฤษณะ บุหลัน ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาธุรกิจเชิงนวัตกรรมสู่นานาชาติ คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาตร์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เปิดโครงการฝึกอบรม “ผู้ฝึกสอนสนุกเกอร์ระดับอาชีพ” ครั้งที่ 1 เพื่อต่อยอดไปสู่ระดับชาติ ประจำปี 2565 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ณโต๊ะ 168 สนุกเกอร์ อะคาเดมี่ บาย ต่าย พิจิตร ย่าน ม.รังสิต โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมการฝึกอบรมทั้งนักกีฬาและเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับวงการสนุกเกอร์ไทยถึง 15 คน แยกการสอนเป็นทั้งในภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ระยะเวลา 2 วัน ตั้งแต่เช้ายันเย็น
ทั้งนี้ นายชูชาติ เปิดเผยว่า ตัวเองอยู่ในวงการสนุกเกอร์มาช้านานกว่า 40 ปี ผ่านประสบการณ์ต่างๆมามากมาย ทั้งการเป็นนักกีฬาเคยคว้าแชมป์รายการสำคัญต่างๆมาแล้ว อาทิ แชมป์สมัครเล่นโลกปี 2536, แชมป์เอชีย และ การไปเทิร์นโปรเป็นนักแทงอาชีพโลกที่อังกฤษ ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้กับสมาคมฯอยู่หลายสิบปี เนื่องจากตัวเองผ่านการฝึกอบรมโค้ชระดับอาชีพโลกของ “เวิลด์ สนุกเกอร์” หรือ “ดับเบิ้ลยูเอสที” จนสามารถถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับเด็กและเยาวชน รวมไปถึงประชาชนทั่วไปและผู้สนใจอยากจะพัฒนาฝีมือตัวเองเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดตัวเองจึงได้จับมือกับ ม.เอแบค และ บ.สปอร์ตสเปเชียลลิส ที่มีประสบการณ์เรื่องสปอร์ตเมแนสเม้นส์ เอาวิชาความรู้ต่างๆในกีฬาสนุกเกอร์มาแยกย่อยเป็นบทเรียน และทำหนังสือเป็นคู่มือสอนให้กับทุกคน อาทิ การจับคิว, การยืน, การวางสะพานมือ, การมองเหลี่ยม, การเล็ง 7 เหลี่ยมพื้นฐาน, การจรดหัวคิวในลักษณะต่างๆถึง 22 จุด, การเดินคิว, การส่งคิว, และ การควบคุมจังหวะการหายใจ เป็นต้น เริ่มกันตั้งแต่เลเวล 1 ไปจนถึงเลเวลที่ 3 กันเลยทีเดียว เพื่อต้องการพัฒนาศักยภาพนักสนุกเกอร์ในบ้านเราให้ก้าวไปสู่ระดับนานาชาติ เนื่องจากคนไทยนั้นมีความสามารถและคุ้นเคยกับกีฬาชนิดนี้มาดีอยู่แล้ว หากเราได้มีต้นแบบที่ดีและเรียนรู้อย่างจริงจังแบบมีระบบ ส่วนตัวมีความเชื่อว่า จะทำให้วงการสนุกเกอร์ไทยพัฒนาขึ้นไม่มากก็น้อย ที่ผ่านมาตัวเองได้เป็นวิทยากรสอนเกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้มาแล้วทั่วประเทศ แต่สิ่งที่เรากำลังทำขึ้นมาในโครงการนี้ มันเข้มข้นกว่าเดิมเยอะ ทั้งเนื้อหาสาระ ตลอดจนการแนะนำธุรกิจเกี่ยวกับสนุกเกอร์ให้กับผุ้สนใจ อาทิ คนขายไม้คิว, ขายอุปกรณ์ต่างๆ, คนขายหัวคิว, คนขายโต๊ะสนุกเกอร์ ฯลฯ ซึ่งแต่ละปีมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลและเราเป็นประเทศส่งออกด้วย
ด้าน นายอดิศักดิ์ ได้กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมทุกท่านที่มีความมุ่งมั่นทุ่มเทและตั้งใจจริง รวมไปถึง “โค้ชต่าย” ที่ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้อย่างเต็มที่ ส่วนตัวมองว่า มันมีประโยชน์กับทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมของกีฬาประเภทนี้ ในการต่อยอดให้กับธุรกิจของตัวเองทั้งผู้ประกอบการก็ดีและตัวนักกีฬาด้วย ในการมาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านต่างๆ เนื่องจากวงการสอยคิวไทยทุกวันนี้พัฒนาไปไกลมาก แต่ละปีมีเงินหมุนเวียนมหาศาลโดยเฉพาะการค้าขายไม้คิว, โต๊ะสนุกเกอร์, โต๊ะพูล และ อุปกรณ์ต่างๆ นี่ยังไม่รวมถึงเงินจากสปอนเซอร์อีกต่างหาก อยากให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมทั้งหมดเป็นระบบว่า อุตสาหกรรมของกีฬาชนิดนี้มันไม่ธรรมดาเอาซ่ะเลย หากใครจับได้ถูกทาง หรือ มีโอกาสไปก่อนนั่นคือ พ้อยส์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ขณะที่ ผศ.ดร.กฤษณะ เผยว่า นอกเหนือจากการเรียนภาคภาคทฤษฏีและปฏิบัติแล้ว ทุกคนที่เข้าร่วมการฝึกอบรมยังจะต้องศึกษาทางด้าน “จิตวิทยา” อีกด้วย เพราะกีฬาสนุกเกอร์มันคือ ศาสตร์ และศิลปะแขนงหนึ่ง หากสภาพจิตใจไม่มีความพร้อม หรือ ตกอยู่ในสถานการณ์กดดันและคับขันแล้ว ทำอย่างไรจะผ่านพ้นวิกฤติเหล่านั้นมาได้ เหมือนกับนักสนุกเกอร์ดังระดับโลก หลายคนเจอเหตุการณ์เหล่านี้ จึงจำเป็นต้องมีนักจิตวิทยาคอยดูแลและให้คำแนะนำที่ดี ถึงจะก้าวไปสู่ชัยชนะความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวนี้เราจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อพัฒนาทุกคนให้เป็นระบบอย่างมืออาชีพ