โจเอล เอ็มบีด เซ็นเตอร์คนดัง ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ ซิกเซอร์ส ตัดสินใจเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่หมอนรองหัวเข่าซ้าย และทำให้เขาจะต้องพักการลงสนามแบบไม่มีกำหนด
โดย เอ็มบีด ต้องถูกหามออกจากสนามหลังเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บหลังลงเล่นไปเพียง 4:04 นาที ในเกมกับ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส หลังโดน โจนาธาน คูมินกา ฟอร์เวิร์ดเจ้าถิ่นล้มทับใส่ขาซ้าย
ย้อนไปเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. เอ็มบีด ก็เคยชวดลงสนามมาแล้วในเกมที่ทีมบุกพ่ายต่อ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เนื่องจากเจ้าตัวระบุว่ามีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าซ้าย
และหลังจากผลสแกนเอ็มอาร์ไอออกมาแล้วพบว่าผู้เล่นวัย 29 ปีรายนี้บาดเจ็บบริเวณหมอนรองหัวเข่าซ้าย ซึ่งล่าสุด “ฟิลาเดลเฟีย อินควายเรอร์ สปอร์ตส์” สื่อกีฬาชื่อดังของสหรัฐรายงานว่า เอ็มบีด ตัดสินใจที่จะเลือกรักษาอาการบาดเจ็บดังกล่าวด้วยการเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากต้องการให้หายขาด และระหว่างที่ฟื้นฟูอาการจะไม่กำเริบอีกเหมือนกับที่แล้วๆ มา
ก่อนหน้านี้ เอ็มบีด มีประวัติรักษาอาการเจ็บหมอนรองเข่าทั้งสองข้างอยู่ก่อนแล้ว โดยย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2016-17 ซึ่งเป็นปีรุกกี้ของเจ้าตัว เขาก็เริ่มเกิดปัญหาเดือน ม.ค. พลาดหลายเกมเพราะกระดูกเข่าช้ำ และหมอนรองเข่าฉีก จนสุดท้ายเลือกเข้ารับการผ่าตัดแบบส่องกล้องจนต้องพักทั้งฤดูกาล
เช่นเดียวกับในช่วงเพลย์ออฟของฤดูกาล 2020-21 ก็มีการเปิดเผย อดีตผู้เล่นรางวัลเอ็มวีพี 1 สมัย ได้รับบาดเจ็บหมอนรองเข่าขวาฉีกระหว่างเพลย์ออฟ รอบแรก พบ วอชิงตัน วิซาร์ดส จนพลาดลงเล่นตลอดซีรีส์ดังกล่าว แต่ก็กลับมาเล่นได้ทั้ง 7 นัดในเพลย์ออฟรอบสองกับ แอตแลนตา ฮอว์กส์ ทว่าสุดท้ายพ่ายไป 3-4 เกม แต่เขาก็มีผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมในซีรีส์จากการทำเฉลี่ย 30.4 แต้ม, 12.7 รีบาวน์ด, 3.9 แอสซิสต์, 2 บล็อค และ 1 สตีล จากการเล่น 37.4 นาทีต่อเกม
ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าหลังจากเข้ารับการผ่าตัดแล้ว เอ็มบีด จะต้องพักรักษาอาการนานแค่ไหนกว่าจะกลับมาลงสนามได้ ซึ่งในฤดูกาลนี้เขาพลาดลงเล่นให้กับ ซิกเซอร์ส ไปแล้ว 14 เกมด้วยหลายเหตุผลทั้งบาดเจ็บ และป่วย ซึ่งเขาจะสามารถพลาลงสนามให้ทีมได้อีกเพียง 3 จาก 34 เกมที่เหลือของฤดูกาลปกติหากอยากจะลุ้นรางวัลเอ็มวีพีในซีซั่นนี้ซึ่งเป็นไปได้ยากแล้ว