โทนี โครส กองกลางจอมเก๋าชาวเยอรมัน ประกาศเตรียมแขวนสตั๊ด หลังจบศึกฟุตบอลยูโร 2024 ปิดฉากการค้าแข้งมานานกว่า 17 ปี
นักเตะวัย 34 ปี ของทีมราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ประกาศยืนยันผ่านทางรายการพอดแคสต์ Einfach mal Luppen ว่าตัวเขาเตรียมประกาศแขวนสตั๊ด หลังจากจบศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ที่เยอรมนี จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
โดย โครส จะหมดสัญญากับทีมดังแห่งศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน และไม่ได้ต่อสัญญาฉบับใหม่ นั่นหมายความว่าเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่จะพบกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะเป็นนัดสุดท้ายของเขากับทีมราชันชุดขาวเช่นกัน
แข้งชาวเยอรมัน ได้โพสต์ข้อความถึงแฟนบอลผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า “17 กรกฎาคม 2014 วันที่ผมเปิดตัวกับ เรอัล มาดริด วันที่เปลี่ยนชีวิตของผม ชีวิตของผมในฐานะนักฟุตบอล แต่โดยเฉพาะอย่างในฐานะคนๆหนึ่ง มันเป็นจุดเริ่มต้นของบทเรียนใหม่ที่สโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
หลังจาก 10 ปี เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล บทเรียนนี้จะสิ้นสุดลง ผทจะไม่มีวันลืมช่วงเวลาแห่งความสำเร็จ
ผมอยากจะขอบคุณทุกๆคนที่อ้าแขนรับผมด้วยหัวใจที่เปิดกว้างและเชื่อมั่นในตัวผม โดยเฉพาะผมอยากจะขอบคุณ มาดริดอิสตาร์ ที่รัก สำหรับความรักขอบพวกคุณตั้งแต่วันจนถึงวันสุดท้าย
ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจในครั้งนี้ หมายความว่าอาชีพของผมในฐานะนักฟุตบอลจะสิ้นสุดลงในซัมเมอร์นี้ หลังจากการแข่งขันฟุตบอลยูโรด้วย
อย่างที่ผมพูดอยู่เสมอ เรอัล มาดริด จะเป็นสโมสรสุดท้ายของผม ผมมีความสุขและภูมิใจ ที่หัวใจของผมได้พบกับช่วงเวลามราเหมาะสมสำหรับการตัดสินใจ และผมสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง
ในใจฉันพบจังหวะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตัดสินใจและสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง ความปรารถนาของผมคือการสิ้นสุดเส้นทางอาชีพด้วยการลงเล่นด้วยการค้าแข้งในระดับสูง ต่อจากนี้มีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ครั้งที่ 15 ลุยเลย มาดริด”
สำหรับ โทนี โครส ถือเป็นหนึ่งในนักเตะกองกลางที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดคนหนึ่งในโลก เคยลงเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิก ระหว่างปี 2007-2014 (ยืมตัวไป ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ฤดูกาล 2009–2010) และพา “เสือใต้” คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในปี 2014 ซึ่งกับ เรอัล มาดริด เขาก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน ทั้ง ลา ลีกา 4 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 4 สมัย และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 4 สมัย
ขณะที่ในนามทีมอินทรีเหล็ก เยอรมนี เขาอยู่ในชุดแชมป์โลก เมื่อปี 2014 และเพิ่งถูกเรียกตัวกลับมารับใช้ทีมชาติ เพื่อช่วยทีมสู้ศึกฟุตบอลยูโร 2024 ที่ประเทศบ้านเกิดเป็นเจ้าภาพ