กาลครั้งหนึ่ง โอซาน คาบัค ถือเป็นปราการหลังที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก และได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีม แต่ปัจจุบันเขายังคงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป โดยกำลังลงเล่นให้กับ ฮอฟเฟนไฮม์ ในบุนเดสลีก้า เยอรมนี
โอซาน มูฮัมหมัด คาบัค เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2000 ที่เมืองอันคารา ประเทศตุรกี เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังด้วยการเข้าเป็นเด็กอคาเดมี่ของ กาลาตาซาราย ตอนอายุ 11 ขวบ
คาบัค เป็นคนที่มีร่างกายสูงใหญ่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเตะในแนวรับ ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาด้วยความคาดหวังอย่างสูงสุดที่จะเป็นอีกหนึ่งนักเตะแห่งอนาคตของสโมสร
กระทั่งเข้าสู่ปี 2017 คาบัค ก็ได้รับสัญญาอาชีพกับ กาลาตาซาลาย เป็นก้าวที่พัฒนาของเขาสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ก่อนจะได้รับโอกาสลงสนามเปิดตัวในเกมที่ กาลาตาซาลาย เอาชนะ เยนิ มาลัตยาสปอร์ 2-0 วันที่ 12 พฤษภาคม 2018
หลังจากนั้น คาบัค ยังคงได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่อง ก่อนที่ในฤดูกาล 2018/19 เขาจะถูก สตุ๊ตการ์ต ในบุนเดสลีก้า เยอรมนี ดึงตัวไปร่วมทีม
คาบัค โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เขาลงสนามไป สตุ๊ตการ์ต ไป 17 นัด ยิงไป 3 ประตู ได้รับรางวัลดาวรุ่งแห่งฤดูกาล 2018/19 ของบุนเดสลีก้า กลายเป็นดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก ทำให้ฤดูกาล 2019/20 เป็น ชาลเก้ 04 ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีม
ปราการหลังตุรกี ลงเล่นเป็นแกนหลักให้กับ ชาลเก้ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกับได้รับการจับตามองจากหลายทีมในยุโรป ก่อนจะเป็น ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ซึ่งเวลานั้นกำลังประสบปํญหานักเตะกองหลังบาดเจ็บหลายคน ขอยืมตัวเขาไปทดลองงานก่อนในฤดูกาล 2020/21
อย่างไรก็ตามการเล่นในพรีเมียร์ลีก ดูเหมือนจะทำให้ คาบัค ปรับตัวลำบาก รวมถึงเขามีโอกาสได้ลงเล่นไม่สม่ำเสมอ ทำให้เขาค่อนข้างจะถูกเสียงวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล เขาก็ถูก นอร์ริช ซิตี้่ ยืมตัวไว้ใช้งานในพรีเมียร์ ลีก ต่อ ในฤดูกาล 2021/22 แต่ก็ฟอร์มของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นมา
ฤดูกาล 2022/23 คาบัค ได้รับข้อเสนอจาก ฮอฟเฟนไฮม์ ในบุนเดสลีก้า ทำให้เขาตัดสินใจกลับไปเล่นในลีกที่เขาเคยทำมันได้ดี เพื่อเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับคืนมา และคาบัค ก็ได้รับโอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกำลังมีฟอร์มที่ดีในปัจจุบัน
กับทีมชาติตุรกี เขาติดทีมชุดใหญ่ในปี 2019 ปัจจุบันลงเล่นไปแล้ว 24 นัด ยิงไป 2 ประตู
ตอนนี้ คาบัค กำลังลงตัวกับ ฮอฟเฟนไฮม์ เชื่อว่าเขาจะกลับมามีเส้นทางที่ดีอีกครั้งในวงการฟุตบอล