นิโคลัส โอตาเมนดี กองหลังวัย 36 ปี ชาวอาร์เจนตินา ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นความวุ่นวายหลังเกมฟุตบอลชายในโอลิมปิก ระหว่างทัพฟ้าขาว และทีมชาติฝรั่งเศส
เหตุการณ์ความวุ่นวายระหว่างแข้งอาร์เจนตินา และฝรั่งเศส เกิดขึ้นในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ ของการแข่งขันฟุตบอลชายในศึกโอลิมปิก และเป็นเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ที่เป็นฝ่ายเข้าชนะไป 1-0
แต่หลังจบเกมกลับเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น ระหว่างงที่ผู้เล่นฝรั่งเศสกำลังวิ่งลงไปในสนามเพื่อฉลองชัยชนะ เกิดไปปะทะกับผู้เล่นอาร์เจนตินา จนเรื่องราวลุกลาม ผู้เล่นและทีมงานกรุเข้าหากัน จนกลายเป็นการทะเลาะวิวาท รวมถึงมีรายงานว่า ในอุโมงค์เข้าสนามก็มีเหตุการณ์วุ่นวายในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีก
จากเหตุการณ์นี้ นิโคลัส โอตาเมนดี กองหลังจอมเก๋าวัย 36 ปี ที่ติดทีมชุดนี้ และลงสนามในนัดดังกล่าวด้วย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์จวกไปยังนักเตะฝรั่งเศส ว่าดีใจจนเกินงาน จนเป็นสาเหตุให้เรื่องลุกลาม
“มันทำให้ผมเดือดสุดๆ นักเตะสามารถฉลองกันได้ เขาจะมีความสุขแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องไปทำตรงที่ของคุณ ครอบครัวของคุณ ไปฉลองกับพวกเขา”
“มันมีนักเตะคนหนึ่งที่ผมจำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ คนที่ถ้าอยากจะฉลอง เขาควรมาหาเรานี่ และเราจะจัดให้ สิ่งที่ทำให้ผมโกรธ คือพวกเขาฉลองชัยชนะ โดยที่รู้ว่ามีเด็กและครอบครัวอยู่ตรงนั้น ซึ่งมันไม่ดีเลย”
“หนึ่งในนั้นมาฉลองตรงม้านั่งสำรองของพวกเรา ผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่มารู้ว่าเขามาฉลองต่อหน้าพวกเรา การฉลองของพวกคุณในสนามมันเป็นเรื่องหนึ่ง จะทำอะไรก็ทำไป แต่ผมไม่ชอบสิ่งที่ตามมา มันขึ้นอยู่กับแต่ละคน”
โดยก่อนหน้านี้ เธียร์รี อองรี ตำนานกองหน้าชาวฝรั่งเศส ที่ปัจจุบันรับหน้าที่คุมทัพทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้ ได้ออกมากล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำว่า ลูกทีมของเขา ไม่ได้ลงเล่นด้วยความคิดจะแก้แค้น เนื่องจากเกมที่ฝรั่งเศส เคยพลาดการคว้าแชมป์โลก ด้วยน้ำมือของ อาร์เจนตินา ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
ประเด็นความบาดหมางของทั้งทีมฟุตบอลทั้งสองชาติ คาดว่าเริ่มต้นจากศึกฟุตบอลโลก 2022 หลังมีรายงานว่า พวกเขามีประเด็นจากการเหยียดเชื้อชาติ จนถึงการเจอกันในนัดชิงชนะเลิศ
รวมถึงที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆ กับประเด็นฉลองแชมป์ โคปา อเมริกา ของทัพนักเตะอาร์เจนตินา ที่มีการร้องเพลงที่มีเนื้อหาเหยียดเชื้อชาติขณะไลฟ์สดจากแอคเคาท์ของ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ จนกลายเป็นเรื่องราวบานปลายบนโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ประเด็นดังกล่าวยังคงความบางหมางต่อเนื่อง หลังมีรายงานว่า แฟนบอลเจ้าภาพ โห่ใส่เพลงชาติของอาร์เจนตินา มาตั้งแต่นัดแรกที่ทีมฟ้าขาว ลงสนามโอลิมปิก จนถึงนัดที่พวกเขาเพิ่งดวลกันไปด้วย ก็มีเสียงโห่เพลงชาติของอาร์เจนติน่าเช่นกัน
