ยังคงได้รับความไว้วางใจจาก ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีมชาติฝรั่งเศส สำหรับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ศูนย์หน้าร่างยักษ์สุดแกร่ง ที่แม้จะอายุอานามปาเข้าไปถึง 36 ปี แล้ว แต่ก็ยังติดเป็น 1 ใน 26 ขุนพล “ตราไก่” ไปลุยป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์
โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 1986 ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในเมือง แชมเบรี ประเทศฝรั่งเศส โดยได้รับอิทธิพลในการชื่นชอบฟุตบอลมาจาก โรแมง พี่ชายของเขา ที่อายุห่างกัน 10 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลเช่นกัน
ชิรูด์ เข้าเป็นเด็กฝึกหัดของทีม ฟรอเจส ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ตอนอายุ 6 ขวบ ก่อนที่อายุ 13 เขาจะย้ายไปอยู่กับ เกรอนอบล์ อย่างไรก็ตามแม้ ชิรูด์ จะเป็นเด็กที่รูปร่างสูงใหญ่ มีสรีระที่แข็งแกร่งเหมาะแก่การเล่นฟุตบอล แต่ เขาค่อนข้างกลัวความล้มเหลว อยู่เหมือนกัน เพราะพี่ชายของเขา ไม่สามารถก้าวขึ้นไปเล่นลีกระดับสูงได้
อย่างไรก็ตาม พี่ชายของ ชิรูด์ ได้พูดกับเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า “ฉันต้องเสี่ยงเพื่อเริ่มต้นใหม่ในลีกที่ต่ำกว่า แต่ฉันก็ไม่เคยยอมแพ้”
ความเจ็บปวด และความไม่ยอมแพ้ของพี่ชาย ได้กลายมาเป็นแรงผลักดันชั้นดีในการพัฒนาตัวเอง และมุ่งมั่นสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพ ในปี 2005 เขาได้ขึ้นไปอยู่ทีมชุดใหญ่ของ เกรอนอบล์ ก่อนจะทำผลงานเข้าตา ตูร์ และถูกดึงมาร่วมทีมในปี 2008
กับสโมสรตูร์ ชิรูด์ ได้ ดาเนียล ซานเชซ ผู้จัดการทีม ซึ่งเคยเป็นอดีตศูนย์หน้าช่วยขัดเกลาการทำประตูให้ดีขึ้น จนมีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม ลงเล่นให้ทีมไป 44 นัด ยิงไปถึง 24 ประตู
“การมีอดีตกองหน้าเป็นโค้ชเป็นสิ่งที่ดีเสมอ คำแนะนำของเขาสำหรับผมช่วยได้มากจริงๆ ผมยิงให้ ตูร์ อย่างต่อเนื่อง” ชิรูด์เล่าถึงอดีตโค้ชของเขา
หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่อง ชิรูด์ ก็ถูก มงต์เปลลิเยร์ ดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2010 ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมา เขาจะระเบิดฟอร์ม ยิง 21 ประตู เป็นดาวซัลโว และพา มงต์เปลลิเยร์ คว้าแชมป์ลีกเอิง ได้เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเป็น อาร์เซนอล ที่คว้าตัวเขามาเล่นในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับ อาร์เซนอล ชิรูด์ เป็นศูนย์หน้าตัวหวังของทีมเรื่อยมา นอกจากการทำประตูแล้ว สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการสร้างประโยชน์ทั้งรับและรุก รวมถึงโอกาสในการทำประตูให้กับทีม
เขาสร้างชื่อจนเป็นที่รักของแฟนบอล 6 ฤดูกาลที่ลงเล่น ยิงไปทั้งหมด 105 ประตู จากการลงสนาม 253 นัด คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 3 สมัย และแชมป์ คอมมูนิตี ชิลด์ อีก 3 สมัย
หลังจากหมดสัญญากับอาร์เซนอล ในปี 2018 ชิรูด์ ได้ข้ามฝากมาอยู่กับ เชลซี และประสบความสำเร็จกับทีม ทั้งการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ, แชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ทั้งยังคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อีกด้วย
ก่อนที่ในปี 2021 เขาจะย้ายไปเล่นให้กับ เอซี มิลาน ในเซเรีย อา อิตาลี พร้อมกับคว้าแชมป์ได้ทันทีในฤดูกาลนั้น
กับทีมชาติฝรั่งเศส ชิรูด์ ติดทีมชุดใหญ่ในปี 2011 เขากลายเป็นศูนย์หน้าคนโปรดของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ผู้จัดการทีม โดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 2018 เขาลงสนามให้กับทีมครบทุกนัด จากการเป็นตัวจริง 6 นัดสำรอง 1 นัดลงเล่น 546 นาที แม้จะไม่มีประตู และสับไกไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว
แต่นอกเหนือจากเรื่องนี้ ชิรูด์ เป็นกองหน้าที่่ทำประโยชน์ให้กับทีมมากมาย ทั้งพักบอล เก็บบอล สร้างโอกาสให้เพื่อน หรือลงไปช่วยในเกมรับ
อาจจะแปลกที่นักเตะที่อายุ 36 ปียังได้รับความไว้วางใจให้เล่นอยู่ในเกมที่ระดับสูง แต่ไม่แปลกเลยถ้าคนๆนั้นเป็น ชิรูด์ ตามใดที่เขายังทำประโยชน์ให้กับทีมได้ เชื่อว่าฝรั่งเศส ก็ยังคงจำเป็นต้องมีเขาอยู่ในทีม
