ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ไมล์ส บริดจ์ส ฟอร์เวิร์ดจอมฉาวจะกลับมาคืนทีมอีกครั้งแม้เจอคดีทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาจนหายหน้าไปจากแฟรนไชส์นานนับปี
โดย บริดจ์ส ถูกทางเอ็นบีเอสั่งแบนเป็นเวลากว่า 30 เกมโดยไม่ได้รับค่าจ้างหลังมีการสอบปากคำพยานแวดล้อม เหตุเจ้าตัวถูกแจ้งดำเนินคดีทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาวต่อหน้าลูกๆ 2 คนส่งผลให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลสู้คดี และทำให้ไม่ได้ลงสนามให้กับ ฮอร์เน็ตส์ ถึง 20 เกมในฤดูกาล 2022-23
ขณะที่ในซีซั่น 2023-24 นั้น บริดจส์ ก็โดนแบนไปอีก 10 เกม ก่อนที่สุดท้ายเขาจะยอมรับคำตัดสินจากผู้พิพากษา 1 คดีอาญาคือ ทำร้ายร่างกายดังกล่าว แลกกับการไม่ต้องติดคุก และควบคุมความประพฤติ 3 ปี
และหลังจากการยอมรับคำตัดสิน ทางเอ็นบีเอก็ได้มีคำสั่งปลดแบนให้กับ บริดจ์ส ซึ่งล่าสุด ฮอร์เน็ตส์ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ผู้เล่นวัย 25 ปีรายนี้จะได้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง หลังยังมีสัญญากับทีมอีก 1 ปีมูลค่า 7.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“เราสะดวกใจให้ ไมลส์ กลับมาเล่นได้โดยอิงตามความเข้าใจต่อข้อมูลแท้จริงของคดีความ และคงติดต่อไปยังลีกเอ็นบีเอเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องสำหรับกระบวนการชั้นศาล” ฮอร์เน็ตส์ ออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ บริดจ์ส มีประสบการณ์ 4 ปีในการเล่นเอ็นบีเอด้วยผลงานเฉลี่ยทำ 20.2 แต้ม, 7 รีบาวด์ และเมื่อฤดูกาล 2021-22 เขาถือเป็นแกนหลักให้กับ ฮอร์เน็ตส์ โดนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมร่วมกับ ลาเมโล บอล การ์ดดีกรีทีมออลสตาร์
อย่างไรก็ตามฟอร์มที่ออกมาของ ฮอร์เน็ตส์ กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟได้เลยในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด โดยเฉพาะซีซั่น 2022-23 ที่จบในอันดับ 14 ของสายตะวันออก
นอกจากนั้นเมื่อเดือน มิ.ย. ยังเกิดเหตุการณ์ที่ ไมเคิล จอร์แดน ตำนานยัดห่วง ชิคาโก บูลส์ ได้ประกาศขายหุ้นส่วนใหญ่ของทีมด้วยมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ พล็อตกิน ผู้ก่อตั้ง และหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุน เมลวิน แคปิทัล และ แดเนียล ซุนด์ไฮม์ ผู้ก่อตั้ง และซีไอโอ ดีวัน แคปิทัล ปี 2020 พร้อมยุติช่วงเวลา 13 ปีที่เป็นเจ้าของทีมลง
