สื่อรายงาน ไมเคิล จอร์แดน อดีตนักบาสเกตบอลระดับตำนาน ชิคาโก บูลส์ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อขายหุ้นส่วนใหญ่ของตัวเองที่มีในทีม ชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ออกไป
โดย จอร์แดน เข้ามาถือซื้อหุ้นของ ฮอร์เน็ตส์ ตั้งแต่ปี 2006 ก่อนจะได้ครอบครองทีมเมื่อปี 2010 หลังซื้อหุ้นส่วนใหญ่ต่อจากต่อจาก บ็อบ จอห์นสัน ด้วยมูลค่า 275 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.39 พันล้านบาท) พร้อมกลายเป็นอดีตผู้เล่นเอ็นบีเอรายแรกที่ได้เป็นเจ้าของแฟรนไชส์ในลีก
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ จอร์แดน เป็นเจ้าของนั้น ฮอร์เน็ตส์ ทำผลงานได้ไม่น่าพอใจนักด้วยการสามารถผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟได้เพียง 2 ครั้งในปี 2014, 2016 และแพ้ในรอบแรกทั้ง 2 ครั้งด้วย
ล่าสุด “อีเอสพีเอ็น” สื่อกีฬาแดนมะกันรายงานว่า จอร์แดน กำลังพิจารณาขายหุ้นของเขาให้กับกลุ่มที่นำโดย เกล พล็อตกิน ที่มีหุ้นส่วนน้อยในทีม ฮอร์เน็ตส์ และริก ชานัล ที่มีหุ้นส่วนน้อยในทีม แอตแลนตา ฮอกส์
ถึงกระนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่า การเจรจาดังกล่าวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่คาดว่า จอร์แดน จะไม่ยอมขายหุ้นของตัวเองออกจาก ฮอร์เน็ตส์ ทั้งหมด เพื่อให้เขายังได้มีส่วนร่วมทีมซึ่งปัจจุบันมีมูลล่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.8 หมื่นล้านบาท) ต่อไป
สำหรับ จอร์แดนที่ปัจจุบันอายุ 60 ปีได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดยเจ้าตัวเล่นให้กับ ชิคาโก บูลส์ ระหว่างปี 1984-98 และวอชิงตัน วิซาร์ดส์ ระหว่างปี 2001-03 ก่อนอำลาวงการ
กับการเล่นให้ บูลส์ เขาคว้าแชมป์ลีก 6 สมัย (1991–1993, 1996–1998), MVP รอบชิงชนะเลิศ 6 สมัย, MVP ประจำฤดูกาล 5 สมัย, ติดทีม NBA All Star 14 สมัย และ All NBA First Team 10 สมัย
นอกจากนี้เขายังคว้ารางวัล NBA Defensive Player of the Year และรางวัล All-Defensive First Teams 9 สมัยด้วย
ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า จอร์แดน เลือกที่จะฉลองวันเกิดครบ 60 ปีของตัวเองที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ด้วยการบริจาคเงินมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 342.1 ล้านบาท) ให้กับมูลนิธิ “เมก-อะ-วิธ” ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อช่วยเติมเต็มความปรารถนาของเด็กที่ป่วยเป็นโรคร้ายแรงที่มีอายุระหว่าง 2 ขวบครึ่งถึง 18 ปี