อดัม ซิลเวอร์ ประธานเอ็นบีเอ ออกมาเปิดเผยว่า ได้ตัดสินบทลงโทษของ จา โมแรนต์ พอยต์การ์ดซูเปอร์สตาร์ เมมฟิส กริซลีส์ แต่จะเปิดเผยหลังจากจบเกมรอบชิงชนะเลิศระหว่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ กับไมอามี ฮีต
ย้อนไปเมื่อต้นเดือน มี.ค. โมแรนต์ ได้สร้างเรื่องอื้อฉาวขึ้นด้วยการโชว์อาวุธปืนขึ้นมาระหว่างการไลฟ์สดผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวขณะที่เขากำลังอยู่ในผับแห่งหนึ่งจนกลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก
จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ผู้เล่นวัย 23 ปีต้องออกมาแถลงการณ์ขอโทษ ซึ่งทาง กริซลีส์ ได้สั่งลงโทษเจ้าตัวทันทีด้วยการสั่งแบนห้ามลงสนามเป็นจำนวน 8 เกม นอกจากนั้น โมแรนต์ ยังต้องเข้ารับคอร์สเพื่ออบรมเกี่ยวกับการควบคุมพฤติกรรม และบำบัดความเครียด ก่อนจะได้กลับมาลงสนามช่วยทีมอีกครั้งในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
ทว่าในช่วงกลางเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงปิดซีซั่นของ กริซลีส์ นั้น โมแรนต์ กลับก่อประเด็นดราม่าซ้ำด้วยการโชว์อาวุธปืนผ่านไลฟ์สดในอินสตาแกรมอีกครั้ง หลังเขาปรากฎตัวอยู่ในไลฟ์สดของเพื่อนของเขา และในระหว่างไลฟ์นั้นมีจังหวะที่พอยต์การ์ดรายนี้เหมือนจะควักปืนสั้นออกมาโชว์ ก่อนที่เพื่อนรายดังกล่าวจะตัดไลฟ์ และลบไลฟ์ดังกล่าวออกในภายหลัง
โดย เอ็นบีเอ ได้ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ว่า รับทราบแล้ว และกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ “เรารับทราบเกี่ยวกับโพสต์โซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องกับจาโมแรนต์ แล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ
จนล่าสุด ซิลเวอร์ บิ๊กบอสของเอ็นบีเอ ได้ออกมาอัพเดตถึงกรณีของ โมแรนต์ ว่า ขณะนี้ทางลีกได้ตัดสินบทลงโทษของผู้เล่นรายนี้เป็นที่เรียบร้อย แต่จะมีการเปิดเผยหลังจากจบรอบชิงชนะเลิศระหว่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ กับไมอามี ฮีต จบลงก่อน
“เราอาจนำเรื่องนี้มาพูดได้ในตอนนี้ แต่เราได้ตัดสินใจแล้ว และผมเชื่อว่าสมาคมผู้เล่นเห็นด้วยกับเราว่า มันจะไม่ยุติธรรมกับผู้เล่น และทีมเหล่านี้ (นักเก็ตส์ กับฮีต) ในช่วงกลางของซีรีส์นี้ที่จะประกาศผลของการสืบสวนดังกล่าว”
ทั้งนี้ในช่วงที่ โมแรนต์ ก่อเหตุฉาวครั้งแรก ซิลเวอร์ เคยกล่าวถึงพฤติกรรมของผู้เล่นรายนี้ว่า ขาดความรับผิดชอบ บ้าบิ่น และอาจเป็นอันตรายมาก ถึงกระนั้นผู้เล่นคนนี้ได้แสดงความสำนึกผิดอย่างจริงใจ และสำนึกผิดต่อพฤติกรรมของเขาแล้ว
