ประวัตินักกีฬา

วีระเทพ ป้องพันธ์ มิดฟิลด์คลาสสูงระดับเอเชีย ของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย

วีระเทพ ป้องพันธ์

  คุมแดนกลางให้ทัพ “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย ได้แบบมีคลาสสุดๆสำหรับ วีระเทพ ป้อมพันธ์ มิดฟิลด์ระดับมันสมองจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เป็นคีย์แมนสำคัญช่วยให้ ทีมชาติไทย มีฟอร์มที่ดี เอาชนะ คีร์กิซสถาน 2-0 ในนัดประเดิมสนาม ศึก เอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์

 “เตอร์” วีระเทพ ป้อมพันธ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่เมืองหลวงกรุงเทพฯ เส้นทางอาชีพของเขานั้นไม่เหมือนนักฟุตบอลอาชีพคนอื่นๆ แต่เติบโตมาจากกีฬา ฟุตซอล

 วีระเทพ นั้่นเริ่มด้วยการเข้าร่วมทีมฟุตซอลของโรงเรียนศรีบุญยานนท์ ในย่านนนทบุรี ก่อนทำผลงานได้อย่างโดดเด่นไปเข้าตา “สิงห์เอกมัย” โรงเรียนปทุมคงคา ยอดทีมโต๊ะเล็กขาสั้น ที่ให้ทุนเขาไปเข้าเรียน ก่อนที่ วีระเทพ จะสามารถพัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นมาได้อย่างก้าวกระโดด จนกลายเป็นแข้งคนสำคัญที่พาทีมโรงเรียนปทุมคงคา เดินหน้าไล่กวาดแชมป์ฟุตซอลระดับนักเรียนได้เป็นกอบเป็นกำ จนมีชื่อติดทีมจังหวัดกรุงเทพมหานคร ไปฟาดแข้งกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อปี พ.ศ.2557

 “เตอร์” ได้รับฉายาที่เพื่อนๆตั้งให้ว่า “ซ้ายผ่านตลอด” จากการจ่ายบอลที่แม่นยำ ด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดของเขา ทุกครั้งที่บอลออกจากเท้าของวีระเทพ เรียกได้ว่าอันตราย และเตรียมใส่สกอร์ได้เลย

วีระเทพ ป้องพันธ์

 ชื่อเสียงของ วีระเทพ กลายเป็นที่รู้จักของคนในแวดวงโต๊ะเล็ก หลายคนยกให้เขาเป็น “วันเดอร์คิด” ของวงการฟุตซอลไทย เพราะวีระเทพ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทุกครั้งในทัวร์นาเมนต์ฟุตซอลเดินสายรายการต่างๆ และหลังจากเรียนจบในระดับมัธยมปลาย วีระเทพก็ได้เข้าศึกษาต่อในรั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 เส้นทางในการเป็นนักฟุตซอลอาชีพของเขานั้น ดูสดใสและเปิดกว้างมาก หลายทีมในศึกฟุตซอลไทยลีก ต่างยื่นข้อเสนอและอยากได้ตัวของเตอร์ไปร่วมทีม แต่ในปี 2016 วีระเทพ ตัดสินใจหันหลังให้กับวงการฟุตซอล พร้อมกับมุ่งหน้าเปลี่ยนเส้นทางหันมาสวมสตั๊ดเซ็นสัญญากับ “ลูกพระเกี้ยว” จามจุรี ยูไนเต็ด ที่ลงเล่นอยู่ในไทยลีก 3 ของไทย ทำเอาวงการฟุตซอล ต่างพากันเสียดาย วีระเทพ เป็นอย่างมาก

 แต่ไม่ใช่กับ วีระเทพ เขามุ่งมั่นปรับตัว และด้วยความที่มีเซนส์บอล กับ ทักษะที่เป็นเลิศอยู่แล้ว ทำให้เขาไปได้สวยกับ บทบาทมิดฟิลด์กลางสนาม ที่คอยขับเคลื่อนบอล และคอยสร้างสรรค์หาโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม  จนมีส่วนในการพาทัพลูกพระเกี้ยว ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลอุดมศึกษารายการ “ช้าง ยู-แชมเปี้ยนส์ คัพ” ในปี 2018 พร้อมกับติดทีมฟุตบอลปัญญาชนไทยไปแข่งกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 19 ที่ประเทศเมียนมา

 ผลงานตลอด 3 ฤดูกาลในรั้วทีมจามจุรี เขาได้รับโอกาสลงสนามไปทั้งหมด 64 นัด ทำไป 13 แอสซิสต์กับอีก 3 ประตู  ซึ่งด้วยฟอร์มที่กำลังมั่นใจ บวกกับฝีเท้าที่ดูมีแววมีอนาคตทำให้ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมดังในศึกไทยลีก ไม่รอช้าที่จะลองจับมิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 21 ปี เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมทันทีในปี 2018

 ปีแรกที่เข้ามาในรังกิเลนผยอง วีระเทพยังคงเป็นดาวรุ่งที่ทำได้เพียงขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่กระทั่ง “ตังค์” สารัช อยู่เย็น ตัวจริงในตำแหน่งเดียวกับ วีระเทพ ย้ายไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คู่แข่งร่วมลีก ทำให้ วีระเทพ ได้ก้าวขึ้นมาลงเล่นให้ทีมอย่างเต็มตัว

 เมื่อได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง วีระเทพ ได้กลายเป็นเพชรที่ได้รับการเจียระไน เซนส์บอลของเขาสามารถช่วยทีมได้ทั้งเกมรับ และเกมรุก ทั้งคุมเกม จ่ายบอล หรือดักบอล ได้เป็นอย่างดี จนไปสะดุดตาของ มาโน โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ใส่ชื่อไปลุย ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ ด้วย

 วีระเทพ ที่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแรก ที่ไล่อัด เจ้าภาพสิงคโปร์  2-0 ได้จัดการแผงฤทธิ์ ทำสถิติจ่ายบอลสำเร็จสูงสุดในสนามด้วยความแม่นยำถึง 88 เปอร์เซนต์ จากนั้นก็ได้รับโอกาส ก่อนจะร่วมพาทีทคว้าแชมป์ ซูซูกิ คัพ ปี 2020 และต่อมาใน ปี 2022 ด้วย 

 ขณะที่ในสโมสร วีระเทพ ที่ขนาดทีมชาติยังยอมรับ ก็กลับมากลายเป็นนักเตะแกนหลักอย่างเต็มตัว แถมตอนนี้ ยังเนื้อหอม มีข่าวว่ากำลังมีหลายทีมยักษ์ใหญ่ ในไทยลีก สนใจคว้าตัวไปร่วมทีม รวมถึงทีมจากเจลีก ญี่ปุ่น ก็สนใจในตัวเขาเช่นเดียวกัน

 เรียกได้ว่าเวลานี้ วีระเทพ ป้อมพันธ์ คือกองกลาง ที่มีคลาสระดับเอเชีย ไปแล้ว และเขาจะเป็นกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จ ของทีมชาติไทย ในศึก เอเชียน คัพ 2023 ครั้งนี้แน่นอน

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top