ข่าวบอลออนไลน์

สื่อตีข่าว เดอ บรอยน์ ตกลงย้ายซบทีมลีกซาอุฯ

เดอ บรอยน์

เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางชาวเบลเยียม ของแมนเชสเตอร์ ซิคี้ ทีมในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ยังคงตกเป็นข่าวว่าเตรียมย้ายไปร่วมทีมในลีกซาอุดีอาระเบีย 

นักเตะวัย 33 ปี ตกเป็นข่าวในเรื่องของอนาคตในถิ่นเอติฮัด สเตเดียม มาตั้งแต่จบฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่ผ่านมา หลังเหลือสัญญากับสโมสรอีกแค่ 1 ปีเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเขากำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการไปค้าแข้งที่เมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา รวมถึงมีการเจรจากับ ซาน ดิอาโก เอฟซี ในเบื้องต้นไปแล้วด้วย

อย่างไรก็ตามล่าสุด หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจในการรับใช้ทีมชาติ เนื่องจากเบลเยียม จบเส้นทางในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ไว้ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก็มีกระแสข่าวว่า เควิน เดอ บรอยน์ เตรียมอำลาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อไปค้าแข้งในซาอุดีอาระเบีย โปรลีก

จากรายงานของ รูดี กาเล็ตติ ผู้สื่อข่าวชาวอิตาลีรายงานว่า  อัล-อิตติฮัด ทีมในศึกฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย โปรลีก ได้ส่งสมาชิกของคณะผู้แทนซาอุดีอาระเบีย ซึ่งก็คือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย หรือ พีไอเอฟ มาพบกับเอเยนต์ของ เดอ บรอยน์ เรียบร้อยแล้ว และยังระบุว่าตัวแทนของนักเตะได้รับไฟเขียวให้ย้ายทีมด้วย

เดอ บรอยน์

  

นอกจากนี้รายงานยังระบุด้วยว่า ในตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ อัล-อิตติฮัด กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการตกลงเรื่องค่าตัวในการย้ายทีมเท่านั้น และหากทุกอย่างเป็นจริงนักเตะวัย 33 ปี จะได้ย้ายไปทำงานร่วมกับนักเตะอย่าง คาริม เบนเซม่า, เอ็นโกโล ก็องเต และ ฟาบินโญ นักเตะชั้นนำอีกด้วย

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เควิน เดอ บรอยน์ เพิ่งเปิดปากถึงอนาคตการค้าแข้งของเขากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยระบุว่า สัญญาของเขายังคงมีอยู่กับทีมเรือใบสีฟ้า แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่ แต่จะมีการพูดคุยกันในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า หลังจากที่พักผ่อนกับครอบครัวหลังจากจบศึกฟุตบอลยูโร แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าหากการต่อสัญญาไม่เกิดขึ้นเขาก็พร้อมจะมองหาเส้นทางใหม่ๆ แต่ทุกอย่างยังไม่สามารถลงรายละเอียดได้

สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ ย้ายมาจาก โวล์ฟสบวร์ก ทีมในศึกฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี ตั้งแต่ปี 2015 และกลายเป็นนักเตะกำลังหลักและพาสโมสรประสบความสำเร็จ โดยในเวลานี้ เดอ บรอยน์ ยังเหลือสัญญากับทีมเรือใบสีฟ้า จนถึงปี 2025 ซึ่งหลายคนคาดกันว่าเจ้าตัวจะอยู่จนครบสัญญา เพื่อทำสถิติ พาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัยติดต่อกันให้ได้ ก่อนจะตัดสินอนาคตอีกครั้ง

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top