ซน ฮึงมิน และ อี คังอิน สองแข้งสตาร์ทีมชาติเกาหลีใต้ จับมือจบปัญหาภายในแคมป์ หลังมีรายงานว่าทั้งคู่ทะเลาะกันระหว่างศึก เอเชียน คัพ
สื่อแท็บลอยด์ชื่อดังอย่าง เดอะ ซัน ออกมาแฉว่า มีการกระทบกระทั่งกันระหว่างนักเตะสองกลุ่ม ก่อนเกมที่จะพบกับจอร์แดน ในรอบ 4 ทีมสุดท้าย โดยที่ ซน ฮึงมิน พยายามที่จะเข้าห้ามเหตุการณ์ เป็นเหตุให้แนวรุกวัย 31 ปี ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วชี้และกลาง และต้องพันผ้าที่นิ้วในเกมกับจอร์แดน
ล่าสุดทั้ง ซน ฮึงมิน และ อี คังอิน ได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียอีกครั้ง โดยเป็นการยืนยันว่า ทั้งคู่ได้เคลียร์ใจเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโพสต์ของแข้งรุ่นพี่ระบุว่า “สวัสดีครับ นี่คือ ซน ฮึงมิน วันนี้ผมจะมาพูดอะไรที่ค่อนข้างหนักและยากนิดหน่อย”
“คังอิน ได้ไตร่ตรองถึงการกระทำของเขาอย่างจริงใจ และได้ขอโทษผู้เล่นทีมชาติทุกคนอย่างจริงใจ รวมถึงผมด้วย ตอนที่ผมยังเด็ก ผมเคยสร้างข้อผิดพลาดมากมาย และแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ผมคิดว่าผมสามารถมาถึงจุดที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ เพราะคำแนะนำดีๆจากรุ่นพี่ที่ดีของผม”
“เพื่อป้องกันไม่ให้คังอินทำสิ่งที่ผิดแบบนี้อีก ผู้เล่นของเราทุกคน ในฐานะรุ่นพี่ในทีมชาติและกัปตันทีม จะให้มีการดูแลพิเศษจากฝั่งของคังอินเพื่อที่จะเขาจะสามารถเติบโตเป็นคนและผู้เล่นที่ดีขึ้น”
“ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองก็ทำหน้าที่ได้ดีเหมือนกัน แต่ผมคิดว่ามันเป็นการกระทำที่อาจได้รับการวิจารณ์อย่างดี อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่ามันเป็นหนึ่งในหน้าที่ของกัปตันทีมที่ต้องทำสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เพื่อทีม ดังนั้น หากผมต้องเผชิญกับสถานกาณณ์แบบเดิมอีกครั้ง ผมก็จะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของทีม อย่างไรก็ตาม ผมจะมุ่งมั่นในการพาเพื่อนร่วมทีมของผมอย่างชาญฉลาดมากขึ้นในอนาคต”
“คังอินกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้โปรดยกโทษให้ผมแค่ครั้งเดียว ด้วยหัวใจที่เอื้อเฟื้อ ในฐานะกัปตันทีมชาติ ได้โปรด และในบรรดาเรื่องราวที่หลุดออกมานั้น เนื้อหาเกี่ยวกับการแบ่งแยกในทีมชาตินั้นไม่ใช่ความจริงเลย และเราพยายามที่จะมองทีมให้เป็นหนึ่งเดียวอยู่เสมอ”
“พวกเราขอโทษอย่างจริงใจที่ก่อให้เกิดเรื่องวุ่นวายดังกล่าว แม้ว่าเราจะได้รับความรักจากฟุตบอล และเราจะทำงานให้หนักขึ้นเพื่อช่วยให้ทีมชาติเกาหลีใต้กลายเป็นทีมที่เติบโตต่อไปในอนาคต ในฐานะกัปตันทีมชาติเกาหลีใต้ ผมต้องขอโทษอย่างจริงใจอีกครั้งหนึ่ง”
ขณะที่ อี คังอิน ก็โพสต์ข้อความร่ายยาวเช่นกัน โดยมีใจความสำคัญว่าเขาขอโทษ และยอมรับความผิดของตนเอง รวมถึงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเอเชียนคัพ พร้อมกล่าวขอโทษรุ่นพี่และเพื่อนร่วมทีมทุกคน ก่อนปิดท้ายว่าเจ้าตัวจะทำงานให้หนักขึ้น อุทิศตัวเองเพื่อพัฒนาในฐานะนักฟุตบอลและในฐานนะบุคคลให้ดีขึ้นอีกด้วย