ซิโมนา ฮาเล็ป อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 โลกจากโรมาเนีย แสดงความมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถทวงคืนความบริสุทธิ์ให้กับตัวเองได้หลังต้องโดนแบนจากการเล่นเทนนิสอาชีพเหตุตรวจพบสารกระตุ้น
ฮาเล็ป โดนลงโทษแบนจากการแข่งขันชั่วคราวตั้งแต่เดือน ต.ค. 2022 หลังมีการตรวจพบยาที่มีสารกระตุ้นในร่างกาย ซึ่งผลตรวจดังกล่าวเกิดขึ้นในการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น 2022 แกรนด์สแลมสุดท้ายของปีเมื่อเดือน ส.ค. โดยยาชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง แต่ก็เป็นยาที่เข้าข่ายการเป็นสารกระตุ้นด้วย
หลังการประกาศแบน ฮาเล็ป ได้ออกมาตอบโต้ว่าเธอไม่เคยมีความคิดที่จะใช้สารกระตุ้น หรือทำอะไรที่ เป็นการผิดกฎแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นเธอยังไม่สามารถกลับมาลงสนามได้เนื่องจากคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ทว่าเมื่อเดือน ต.ค. 2023 แร็กเกตวัย 32 ปีกลับโดนองค์กรที่รับผิดชอบในการปกป้องความสมบูรณ์ของเทนนิสอาชีพทั่วโลก หรือ ไอทีไอเอ ตั้งข้อหาว่าเจ้าตัวใช้สารต้องห้ามเป็นครั้งที่ 2 และไม่เกี่ยวข้องกับกรณีแรกที่เธอโดนแบนไปด้วยจำนวน 4 ปี ซึ่งส่งผลให้เธอต้องรอจนถึงวันที่ 7 ต.ค. 2026 ถึงจะพ้นโทษแบน ซึ่งถึงตอนนั้นเธอจะมีอายุ 35 ปีแล้ว
โดย ฮาเล็ป ได้เดินเรื่องในการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬา(ซีเอเอส) ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องการตรวจหาสารต้องห้ามในช่วงที่ผ่านมา และเธอก็เพิ่งไปให้ข้อมูลกับ ซีเออส มา 3 วันติดต่อกัน
ล่าสุด ฮาเล็ป ให้สัมภาษณ์โดยแสดงความมั่นใจว่าจะพ้นโทษอย่างแน่นอน “ฉันมีโอกาสที่จะปกป้องตัวเอง และฉันเชื่อจริงๆ ว่าความจริงกำลังจะถูกเปิดเผย และวันขึ้นศาลกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้”
ทั้งนี้ ฮาเล็ป คือหนึ่งในนักเทนนิสหญิงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาครอง 2 รายการคือ เฟรนช์ โอเพ่น ในปี 2018 และครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกระหว่างปี 2017 ถึง 2018 พร้อมโกยเงินรางวัลในการเล่นอาชีพรวมทั้งหมด 32.2 ล้านปอนด์ หรือราว 1,460,293,795 ล้านบาท
ทว่าเจ้าตัวกลายเป้นนักเทนนิสที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ไม่ผ่านการตรวจโด๊ป นับตั้งแต่ มาเรีย ชาราโปวา อดีตมือหนึ่งของโลกชาวรัสเซียในปี 2016 ซึ่งตอนนั้น ชาราโปวา โดนแบนสองปีจากการตรวจพบสารเมโดเนียม ในการแข่งขันแกรนด์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่น