อีกหนึ่งกองหลังระดับโลกที่ไว้ใจได้ต้องยกให้ ติอาโก ซิลวา จอมเก๋าวัย 38 ที่ยังคงโดดเด่น และแน่นอนของเชลซี
ติอาโก ซิลวา เกิดเมื่อวันที่ 22 กันยายน 1984 ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อเขายังเด็ก ซิลวาได้เข้าเรียนในโรงเรียนย่าน กัมโปกรันเด ของ ริโอ ซึ่งเป็นโรงเรียนรับเลี้ยงเด็กของ ฟลูมิเนนเซ ในปี 1998 ตอนอายุ 14 ปี เขาสร้างความประทับใจให้กับ โค้ชฟลูมิเนนเซ่ เมารินโญ่ ในเกมกระชับมิตรที่ เซเรม ซึ่งตอนนั้นเขารับบทเป็นกองกลางตัวรับ และแม้จะสร้างความโดดเด่นอย่างมาก แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้รับเลือก
ติอาโก ตัดสินใจออกหาเส้นทางใหม่ เขาไปคัดฝีเท้าที่ มาดูเรร่า, โอลาเรีย และฟลาเมงโก แต่เขาไม่ได้รับเลือกเลย อย่างไรก็ตาม ติอาโก ไม่ได้ท้อแต่อย่างใด ก่อนจะได้ย้ายไปสู่ทีม บาร์เซโลนา อาร์เจ ในปี 2000
ผ่านมาเพียงปีเดียว ติอาโก ได้รับข้อเสนอจาก ฟลูมิเนนเซ ทีมเก่าของเขาให้กลับไปร่วมทีม ด้วยความผูกพันธ์ที่มี ทำให้เขาตัดสินใจไปที่นั่นอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นเมื่อเขาได้รับข้อเสนอให้ไปเล่นชุดใหญ่กับ อาร์เอส ฟูตีโบล ติอาโกก็ไม่ปล่อยให้โอกาสเดบิวต์เป็นนักเตะอาชีพหลุดลอยไป
หลังจากลงเล่นเป็นมิดฟิลด์ให้กับ ฟูตีโบล อยู่ 2 ฤดูกาล เขาก็ได้รับความสนใจจาก ยูเวนตูเด ในลีกสูงสุด ดึงตัวไปร่วมทีม และที่แห่งนี้เขาก็ได้เปลี่ยนบทบาทกลายเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก ตามคำแนะนำของโค้ช
ถัดมาฤดูกาลเดียวโอกาสไปเล่นในยุโรปก็มาถึง เมื่อเขาได้ข้อเสนอจาก ปอร์โต ยักษ์ใหญ่ในโปรตุเกส แต่เมื่อไปถึงเขากลับยังไม่สามารถฝ่ากำแพงตัวจริงได้ ทำให้หลังจากลงสนามกับทีมสำรองไป 14 นัด ก็ถูกขายให้กับ ดินาโม มอสโก ไปเล่านในลีกรัสเซีย แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ได้ลงสนามให้กับทีมแม้แต่เกมเดียว
ฤดูกาล 2006 ฟลูมิเนนเซ ทีมเก่าแรกเริ่มของเขายื่นข้อเสนอยืมตัวกลับมาฟื้นฟอร์มที่บราซิล ติอาโก ก็ต้องการอย่างนั้นจึงตัดสินใจกลับไปยังทีมแรกเริ่มของเขาอีกครั้ง และเขาก็โชว์ฟอร์มได้ดีจน ฟลูมิเนนเซ ตัดสินใจซื้อเขาขาดในฤดูกาล 2007 พร้อมกับคว้าแชมป์ โคปา โด บราซิล
ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นของ ติอาโก ทำให้เขาได้รับโอกาสไปโลดแล่นในยุโรปอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็น เอซี มิลาน ในเซเรียอา อิตาลี ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2009/10
ติอาโก กลายเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ เอซี มิลาน คว้าแชมป์ เซเรียอา ในฤดูกาล 2010/11 และซูเปร์โคปปา อิตาเลีย ในปี 2011 ก่อนที่เขาจะได้รับความสนใจจาก ปารีส แซงต์แชร์กแมง ที่ทุ่มเงินถึง 42 ล้านยูโร เป็นสถิติกองหลังที่ค่าตัวแพงที่สุดในฤดูกาล 2012/13
ติอาโก กลายเป็นปราการหลังที่ประสบความสำเร็จมากกมาย เขาคว้าแชมป์ลีกเอิง 7 สมัย, คูเป เดอ ลา ลีก 6 สมัย, โทรฟี เดส แชมเปียนส์ 5 สมัย, คูเป เดอ ฟรองซ์ 5 สมัย และเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาล 2019/20
หลังจากอิ่มตัวในฝรั่งเศส ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง เขาเลือกย้ายมายังเชลซี เพื่อหาความท้าทายใหม่ และเขาก็ถือเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ เชลซี คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2020/21 แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2021 และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2021
ในส่วนทีมชาติบราซิล เขาติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2008 ปัจจุบันลงเล่นไป 113 นัด ยิงไป 7 ประตู คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา 2019 และ ฟีฟ่า คอนเฟเดเรชันส์ คัพ 2013
แม้อายุจะเกือบ 40 ปี แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าความเก๋า และเชิงฟุตบอลของ ติอาโก ยังสามารถเป็นกำลังสำคัญ และเล่นในระดับสูงต่อไปได้ น่าสนใจจริงๆว่าเขาจะสิ้นสุดอาชีพการค้าแข้งในรูปแบบไหน