หลังจากที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ยอดกุนซือชื่อดังชาวเยอรมนี ของ ลิเวอร์พูล ประกาศอำลาทีมหลังจบฤดูกาล 2023/24 ทำให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต้องเร่งหากุนซือคนใหม่มารอทดแทน โดยเริ่มแรกนั้นให้ความสนใจไปที่ ชาบี อลอนโซ อดีตตำนานของทีม ที่ปัจจุบันกำลังคุมทัพเลเวอร์คูเซน ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม ยังไม่แพ้ใครมา 38 นัดรวมทุกรายการ แต่ภายหลังมีข่าวว่า อลอนโซ นั้นต้องการจะอยู่ต่อไปกับ เลเวอร์คูเซน ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องเบนเข็มตามหากุนซือคนใหม่ โดยมีชื่อของ รูเบน อโมริม ขึ้นมาเป็นตัวเต็ง
รูเบน อโมริม นั้นมีชื่อเต็มๆว่า รูเบน ฟิลิปเป มาร์เกส อโมริม เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 1985 เป็นชาวโปรตุเกส ปัจจุบันอายุ 39 ปี เป็นกุนซือของ สปอร์ตติง ลิสบอน ยักษ์ใหญ่ในลีกโปรตุเกส
รูเบน อโมริม เคยเป็นอดีตนักเตะทีมชาติโปรตุเกส ในตำแหน่งกองกลาง เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับสโมสร แอตเลติโก คัลเจอรัล, เบนฟิก้า และเบเลเนนเซส ก่อนที่ในปี 2003 จะได้ขึ้นชุดใหญ่กับ เบเลเนนเซส โดยช่วงแรกนั้นยังเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง ก่อนจะเริ่มมาได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ในฤดูกาล 2005/06 และย้ายไปอยู่กับ เบนฟิกา ในฤดูกาล 2008/09
อโมริม ค่อนข้างประสบความสำเร็จกับเบนฟิกา เพราะเขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มากมาย ทั้ง ลีกสูงสุดของโปรตุเกส 3 สมัย, Taça de Portugal 1 สมัย, Taça da Liga 5 สมัย, Supertaça Cândido de Oliveira 1 สมัย ก่อนที่ช่วงท้ายจะประสบปัญหาบาดเจ็บ ต้องย้ายไปเล่นกับ อัล วาคราห์ ในกาตาร์ ด้วยสัญญายืมตัว แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดในที่สุด ด้วยวัยเพียง 32 ปี เท่านั้น
หลังแขวนสตั๊ด อโมริม เข้าร่วมอบรมการเป็นโค้ชกับสมาคมฟุตบอลเมืองลิสบอน และเริ่มทำงานเป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสร คาซ่า เปีย ในดิวิชั่น 3 แต่ทำได้ไม่นานก็ลาออกเนื่องจากมีปัญหาใบอนุญาตโค้ช ก่อนจะมาได้งานใหม่ด้วยการไปเป็นโค้ชทีมสำรองให้กับ บราก้า ในเดือน ก.ย. 2019
ต่อมา บราก้า เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อ ริคาร์โด้ ซา ปินโต้ ถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือ อโมริม จึงได้รับการเลื่อนขึ้นเป็นกุนซือคนใหม่ของสโมสร
ในเวลานั้น บราก้า รั้งอันดับ 8 ของลีก แต่เมื่อได้ อโมริม เข้ามา เขาก็พลิกสถานการณ์จนพาทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ ได้สำเร็จ จากการโค่นยักษ์ใหญ่อย่าง เอฟซี ปอร์โต้ ในรอบชิงชนะเลิศ โดยใช้เวลาแค่ 3 สัปดาห์นับตั้งแต่เขาขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่
ด้วยผลงานที่โดดเด่นในการเป็นโค้ชให้ บราก้า แค่ 2 เดือน รวม 13 นัดเท่านั้น ทำให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่าถึง 10 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัว อโมริม ไปเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ นับเป็นสถิติค่าตัวผู้จัดการทีมที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลโปรตุเกสเลยทีเดียว
รูเบน อโมริม ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือคนใหม่ของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในวันที่ 4 มี.ค. 2020 และก็ช่วยให้ สปอร์ติ้ง ขยับขึ้นมาจบอันดับ 4 คว้าตั๋วลุยศึกยูโรปาลีกได้สำเร็จ
จากนั้นในฤดูกาล 2020/21 อโมริม ก็สร้างความฮือฮาด้วยการพา สปอร์ติ้ง คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งลีกสูงสุดและลีกคัพ โดยเฉพาะในลีกที่เป็นการได้แชมป์สมัยแรกในรอบ 19 ปีของสโมสร
ซีซั่นถัดมา สปอร์ติ้ง ก็ยังคว้าแชมป์บอลถ้วยได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ผลงานในลีกนั้นจบที่ตำแหน่งรองแชมป์ จากนั้นในซีซั่น 2022/23 การที่ต้องเสียผู้เล่นสำคัญๆไปหลายราย ทั้ง นูโน่ เมนเดส, เจา ปาลินญ่า และ มาเธอุส นูนเญซ ทำให้สุดท้ายจบแค่อันดับ 4 เท่านั้น
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลปัจจุบัน สปอร์ติ้ง กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง ปัจจุบันทีมรั้งจ่าฝูงของลีกด้วยการแพ้แค่ 2 นัดจาก 25 เกม และยิงประตูได้ถึง 75 ลูกทีเดียว
สำหรับในด้านแท็กติกนั้น อโมริม ยึดมั่นกับระบบ 3-4-3 ซึ่งเป็นระบบที่ปรับเปลี่ยนได้ทั้งเกมรับและเกมรุกด้วยการยืนตำแหน่งของวิงแบ็กทั้งสองข้าง
คงต้องมาลุ้น และติดตามกันว่า สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะได้ใครมาคุมบังเหียนแทนที่ของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามเชื่อว่า อโมริม นี่นถือเป็นชื่อที่เหมาะสมไม่แพ้ใครในเวลานี้
