อารอน คอร์เตส นักเทนนิสวัย 29 ปี ชาวสเปน โดนลงโทษแบนห้ามแข่งขันไปจนถึงปี 2039 หลังจากยอมรับข้อกล่าวหาคอร์รัปชัน 35 กระทง
โดย “บีบีซี” สื่อดังของอังกฤษรายงานว่า คอร์เตส วัย 29 ปีชาวสเปนยอมรับว่าเจ้าตัวทำผิดในข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน 35 กระทงซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี 2016-2018ทั้งการล็อกผลการแข่งขัน, เล่นพนันเทนนิส, ไม่รายงานตัวคดีทุจริต และติดสินบนเจ้าหน้าที่ทัวร์นาเมนต์ แลกกับการเป็นมือไวลด์การ์ด
แถลงการณ์ระบุถึงโทษแบนดังกล่าวว่า “คอร์เตส ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสืบสวนของ นองค์กรที่รับผิดชอบในการปกป้องความสมบูรณ์ของเทนนิสอาชีพทั่วโลก (ไอทีไอเอ) และยอมรับการคว่ำบาตรที่ตกลงกันไว้ โดยสละสิทธิ์ในการไต่สวนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ไต่สวนอิสระเพื่อต่อต้านการทุจริต ระยะเวลาขาดคุณสมบัติของผู้เล่นเริ่มในวันที่ 27 มี.ค. 2024 และสิ้นสุดในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 26 มี.ค. 2039”
จากความผิดนี้ส่งผลให้มีการตัดสินลงโทษด้วยการสั่งแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการเทนนิส ทั้งไม่สามารถแข่งขัน เป็นโค้ชหรือมีส่วนร่วมใดๆ ในรายการที่สมาคมนักเทนนิสอาชีพชาย, สมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง, สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ รวมทั้งสมาคมเทนนิสชาติใดก็ตามเป็นเวลา 15 ปีโดยโทษแบนนี้จะสิ้นสุดในปี 2039 พร้อมปรับเงิน 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.7 ล้านบาท
นั่นหมายความว่า เจ้าตัวจะพ้นโทษแบนเมื่อตอนที่มีอายุ 44 ปีซึ่งหากมองตามความเป็นจริงแล้วเจ้าตัวน่าจะต้องปิดฉากการเล่นอาชีพไปเป็นที่แน่นอนแล้ว
สำหรับ คอร์เตส เคยมีอันดับสูงสุดในประเภทเดี่ยวที่ 955 โลกเมื่อปี 2017 และยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการใดๆ ได้เลย โดยได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 21,854 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 800,730 บาท ระหว่างอาชีพของเขาในทัวร์นาเมนต์เดี่ยว และคู่
ทั้งนี้วงการเทนนิสอาชีพมีปัญหาเรื่องการล็อกผลอย่างต่อเนื่อง โดยย้อนไปเมื่อปี 2023 ฝ่ายตรวจสอบทุจริตในวงการเทนนิส (ทีไอยู) ประกาศลงโทษ มาเจด คิลานี นักเทนนิสหนุ่มชาวตูนิเซีย ทั้งปรับ และแบนจากเหตุล็อกผลการแข่งขัน
โดยนักหวดลูกสักหลาดหนุ่มวัย 23 ปี พร้อมผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 3 ราย ได้ทำการล็อกผลการแข่งขันในการ แข่งขันระดับ ไอทีเอฟ ฟิลเจอร์ส ที่ประเทศอียิปต์เมื่อเดือน ส.ค. 2016 และจากหลักฐานทั้งหมดพิสูจน์ว่า คิลานี และพวกมีความผิดจริง ทำให้โดนสั่งปรับเงิน 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 210,000 บาท และถูกแบนจากแข่งขันระดับอาชีพนานถึง 7 ปีด้วยกันมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.ปีที่แล้วเป็นต้นไป
