ถือเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ของโมร็อกโก สำหรับ ยูสเซฟ เอ็น-เนสยรี ศูนย์หน้าวัย 25 ปีของเซบีญ่า ที่โขกประตูชัยช่วยให้ทีมเฉือนชนะ โปรตุเกส 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติแอฟริกัน อีกทั้งลูกโหม่งของเขายังทำสถิติกระโดดได้สูงกว่า คริสเตียโน โรนัลโด สมัยที่ค้าแข้งกับยูเวนตุสอีกด้วย
ยูสเซฟ เอ็น-เนสยรี เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 1997 ที่เมือง เฟซ ประเทศโมร็อกโก คุณพ่อของเขานั้นเป็นคนที่ชื่นชอบในเกมการแข่งขันฟุตบอลอยู่แล้ว และเอ็น-เนสยรี ก็ได้รับในส่วนนี้ของคุณพ่อมาแบบเต็มๆ ทุกวันเขามักจะออกไปเตะฟุตบอลตามท้องถนนกับเพื่อนๆอยู่เป็นประจำ
ช่วงเวลาที่เขาเติบโตมานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับ โมฮัมเหม็ดที่ 6 กษัตริย์แห่งโมร็อกโก มีความคิดที่จะปฏิรูปฟุตบอลในประเทศ จึงจัดทำโครงการ และทีมฝึกฝนเยาวชน ที่เรียกว่า เดอะ อคาเดมี โมฮัมเหม็ด ที่ 6 เดอ ฟุตบอล ขึ้น และเอ็น-เนสยรี ในวัย 14 ปี คือหนึ่งในนั้น
ที่แห่งนี้ เอ็น-เนสยรี ได้รับการฝึกฝนอย่างดี เป้าหมายของอคาเดมี แห่งนี้คือการพัฒนาฝีเท้าเด็กๆออกไปเล่นในสโมสรชั้นนำทั่วโลก และในที่สุด เอ็น-เนสยรี ก็ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คนคือ ฮัมซา เรกรากุย, อัชราฟ ซิดกี และ ซูไลมาน เอล อัมรารี ก็ได้แยกย้ายไปโลดเล่นกับโมสรในยุโรป โดย เอ็น-เนสยรี ได้เข้าร่วมกับทีม มาลาก้า ในสเปน
ผลงานในทีมสำรองของ มาลาก้านั้น เอ็น-เนสยรี ระเบิดฟอร์มยิงประตูอย่างต่อเนื่อง โดยยิงรวมไปถึง 49 ประตู จากการลงสนามทั้งหมด 43 นั้น ตอนนั้นผู้คนต่างพูดกันว่าเขามีคุณสมบัติทุกอย่างที่กองหน้ายุคใหม่ควรมี นั่นคือ ลูกโหม่งที่ทรงพลัง, การไปกับบอล, ความเร็ว และการจบสกอร์ ทำให้ในปี 2016/17 เขาถูกดันขึ้นมาเล่นกับชุดใหญ่ที่มีสตาร์ดังอย่าง อิสโก, ซานติ กาซอร์ลา และ ซาโลมอน รอนดอน
หลังจากโชว์ฟอร์มกับ มาลาก้า 2 ฤดูกาล ในปี 2018/19 เอ็น-เนสยรี ก็ย้ายไปเล่นกับ เลกาเนส โดยลงสนามไป 53 นัด ยิงไป 15 ประตู ก่อนที่ในปี 2019/20 จะเป็น เซบีญา ที่ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีม และร่วมกันคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2019/20
ขณะที่ผลงานกับทีมชาติโมร็อกโก เขาติดชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2016 ปัจจุบันลงสนามไปทั้งหมด 55 นัดยิงไป 17 ประตู โดย 2 ประตูในนั้นคือการยิงในนัดที่พบกับ แคนาดา รอบแบ่งกลุ่ม และประตูชัยในนัดที่ ชนะโปรตุเกส 1-0 ในฟุตบอลโลก
ถึงตรงนี้ไม่ว่าโมร็อกโก จะจบเส้นทางในฟุตบอลโลก ด้วยแชมป์โลกหรือไม่ก็ตาม แต่ ยูเซฟ เอ็น-เนสยรี ก็ได้กลายเป็นศูนย์หน้าที่แฟนบอลโมร็อกโก จะเรียกว่าเป็นฮีโร่ และทีมจับตามากขึ้นในอนาคต