ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักสำคัญที่ทำให้ เลเวอร์คูเซน กำลังลุ้นแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี อย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ สำหรับ ลูคัส ฮราเดสกี ที่ช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตไปหลายนัด จนปัจจุบันเป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้
ลูคัส ฮราเดสกี เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 1989 ที่เมืองบราติสลาวา ประเทศสาธารณรัฐเช็ก แต่เขามาเติบโตที่ประเทศฟินแลนด์ โดยย้ายตามคุณพ่อของเขาเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ ขณะที่พี่น้องของเขา 2 คน ก็เติบโตมาเป็นนักฟุตบอลเช่นกัน
ด้วยความที่คุณพ่อของ ฮราเดสกี นั้นเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ ทำให้เขาเคยได้รับการฝึกฝนเล่นวอลเลย์บอลมาบ้างตั้งแต่ยังเด็ก แต่ถึงกระนั้น ฮราเดสกี ก็หันมาชื่นชอบฟุตบอลมากกว่า และได้มีโอกาสเข้าฝึกฝนกับทีมเยาวชนของ TPK ก่อนที่จะย้ายไปยัง TPS ตอนอายุ 11 ขวบ
ฮราเดสกี เติบโตขึ้นมาในระบบเยาวชนของ TPS ก่อนจะถูก AIFK ยืมตัวไปเฝ้าเสา และได้รับความสนใจจาก เอส์บเจิร์ก เอฟบี ทีมในลีกเดนมาร์ก ดึงตัวไปร่วมทีมด้วยสัญญา 4 ปี ในฤดูกาล 2009/10
ช่วงแรกอาจเป็นเพียงดาวรุ่งตัวสำรองที่รอวันได้รับโอกาส แต่เพียงฤดูกาล 2010/11 เขาก็ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งมือ 1 พร้อมกับช่วยพาทีมคว้าแชมป์ เดนิช ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2011/12 และแชมป์ เดนิช คัพ ฤดูกาล 2012/13 ก่อนจะยังรักษาฟอร์มยอดเยี่ยมต่อเนื่อง จนถูก บรอนด์บี ยักษ์ใหญ่ในนลีกเดนมาร์ก คว้าตัวไปร่วมทีม
ฮราเดสกี กลลายเป็นผู้รักษาประตูจอมหนึบชื่อดังแห่งลีกเดนมาร์ก นับตั้งแต่นั้น ประกอบกับฟอร์มอันยอดเยี่ยมที่ไปโชว์กับทีมชาติฟินแลนด์ด้วย ทำให้เขากลายเป็นที่สนใจของหลายทีมดังในยุโรป
เวลาต่อมาในฤดูกาล 2015/16 เป็น ไอน์ทรัคต์ แฟรงเฟิร์ต ที่ประสบความสำเร็จในการคว้าตัวเขาไปร่วมทีม โดยฝากผลงานไว้กับ บรอนด์บี โดยการลงสนามทั้งหมด 79 นัด
ฮราเดสกี ย้ายมาร่วมคว้าความสำเร็จกับ แฟรงเฟิร์ต ด้วยการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ฤดูกาล 2017/18 ก่อนที่ฤดูกาลต่อมา 2018/19 จะย้ายมาเฝ้าเสาให้กับ เลเวอร์คูเซน
นับตั้งแต่นั้น ฮราเดสกี ก็กลายเป็นเทพพิทักษ์ประตูให้กับ เลเวอร์คูเซน ที่โชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบ จนได้รับความไว้วางใจมาเป็นเวลานาน กระทั่งในฤดูกาล 2023/24 นี้เอง ที่ทุกคนในทีมพร้อมใจกันระเบิดฟอร์มพาทีมก้าวขึ้นมาจ่อคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมนี โดยที่ ฮราเดสกี นั้น ช่วยเซฟให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตู หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งหากนับรวมตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ก็เก็บคลีนชีตไปแล้วทั้งหมด 80 นัด จาก 280 นัดในบุนเดสลีกา
แน่นอนว่าหากฤดูกาลนี้ เลเวอร์คูเซน สามารถก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์บุนเดสลีกา และแชมป์อื่นๆได้สำเร็จ หนึ่งในนักเตะที่ต้องยกเครดิตให้เลยก็คือ ฮราเดสกี คนนี้