มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ได้ล้มแผนขายหุ้นให้กับ อเล็กซ์ โรดริเกซ อดีตดาราแห่งเมเจอร์ลีก เบสบอส สหรัฐ และ มาร์ค ลอร์ ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เกล็น เทย์เลอร์ เจ้าของคนปัจจุบันได้ตัดสินใจที่จะขายหุ้นของ ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ให้กับ โรดริเกซ และลอร์ ซึ่งปัจจุบันทั้งคู่ครอบครอง 40% ไปอีกเป็นจำนวน 40%
หมายความว่า หากดีลดังกล่าวลุล่วงจริง เทย์เลอร์ จะไม่ใช่เจ้าของทีมอีกต่อไปเนื่องจาก โรดริเกซ และลอร์ จะมีมูลค่าหุ้นรวม 80% ซึ่งเกิน 50% ทำให้ทั้งคู่สามารถเข้ามามีอำนาจการตัดสินใจแบบเต็มที่ หรือหากเรียกกันง่ายๆ คือเป็นเจ้าของทีมคนใหม่ แต่ยังต้องรอการอนุมัติจากบอร์ดบริหารของเอ็นบีเออย่างเป็นทางการก่อน
นอกจาก ทิมเบอร์วูล์ฟส์ แล้ว ทั้ง โรดริเกซ และลอร์ ซึ่งเข้ามาซื้อหุ้น ทิมเบอร์วูล์ฟส์ 40% ด้วยมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.16 หมื่นล้านบาท) เมื่อปี 2021 จะได้ครอบครองแฟรนไชส์ มินเนโซตา ลิงซ์ ทีมดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอซึ่งอยู่ในเครือของ ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ด้วย
อย่างไรก็ตามล่าสุด ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาตัดสินใจยกเลิกการขายหุ้นของ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ และมินเนโซตา ลิงซ์ ให้กับ โรดริเกซ และลอร์ แล้ว เนื่องจากทั้งสองคนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ได้ทันในวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา และเป็นการปิดโอกาสที่ทั้งคู่จะเข้ามาถือหุ้นใหญ่เพื่อขึ้นเป็นเจ้าของทีม
หลังจากนั้นทาง โรดริเกซ และลอร์ ก็ออกแถลงการณ์ผ่านโฆษก โดยแสดงความผิดหวังกับการตัดสินใจของทาง เทย์เลอร์ เนื่องจากพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาเงินทุนมาเพื่อซื้อทีม และทำตามขั้นตอนของ เอ้นบีเอ ทุกอย่างแล้ว แต่กลับเจอการกระทำแบบตัดความสัมพันธ์ของ เทย์เลอร์ และเชื่อว่านี่เป็นการโยนความผิดให้กับผู้ซื้อ แถมยังอาจจะทำลายบรรยากาศของทีมและแฟนๆ ที่กำลังมีซีซั่นที่ดีด้วย
ทั้งนี้ เอเดรียน โวนาโรวสกี้ ผู้สื่อข่าวคนดังเปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ของ เทย์เลอร์ กับ โรดริเกซ และลอร์ นั้นเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ มาตลอดช่วง 2 ปีกว่า ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่เกิดการล้มดีลนี้ไป
