โฮลเกอร์ รูน นักเทนนิสชายมือ 14 โลกจากเดนมาร์ก ระบุว่า การที่เขาเคยขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของโลกเมื่อปี 2023นั้นคือเรื่องเหนือความคาดหมาย โดยชี้เหมือนของขวัญมากกว่าผลงาน
โดย รูน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปี 2022 หลังผงาดคว้าแชมป์ ปารีส มาสเตอร์ส และทำให้เขาได้รับคะแนนอันดับเอทีพีไป 1,000 แต้ม
ก่อนที่ในปี 2023 เขาลงเล่นในรอบรองชนะเลิศของ 2 รายการที่ มงต์เปลลิเยร์ และอากาปุลโก นอกจากนั้นแร็กเกตชาวเดนมาร์ยังได้ลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศของรายการ มอนติ-คาร์โล มาสเตอร์ส และคว้าแชมป์ มิวนิก โอเพ่น ก่อนที่จะไปถึงรอบชิงชนะเลิศของรายการ อิตาเลียน โอเพ่น และผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศแกรนด์สแลมเฟรนช์ โอเพ่น
นอกจากนั้น รูน ยังยังเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการ คลินช์ แชมเปียนชิพ และเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศแกรนด์สแลมอย่าง วิมเบิลดัน ซึ่งจากผลงานทั้งหมดแล้วทำให้เขาได้รับคะแนนรวมที่ผลักดันให้เขาขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ของโลก
ล่าสุดนักหวดวัย 21 ปีให้สัมภาษณ์ถึงการเคยครองอันดับที่ 4 ของโลกด้วยคะแนนเอทีพี 4,790 คะแนนว่าเป็นเรื่องของโชคมากกว่าฝีมือเนื่องจากหากเทียบกับอันดับ 4 ของโลกในปัจจุบันอย่าง โนวัก ยอโควิช ยอดนักเทนนิสจากเซอร์เบีย มีคะแนนอยู่ถึง 6,210 คะแนน “พูดตามตรง ผมสมควรอยู่ในท็อป 7 หรือท็อป 8 มากกว่า เพราะผลงานที่ทำได้ตั้งแต่ปลายปี 2022 ถึงต้นปี 2023 แต่การได้อันดับ 4 ไม่ใช่ผลงานจากผลงานของผม แต่เป็นของขวัญเพราะผลงานของผู้เล่นคนอื่นๆ ที่อยู่อันดับสูงกว่าผมซึ่งไม่สามารถป้องกันคะแนนจากปีก่อนได้”
“ตอนนั้นผมยังไม่พร้อม คุณภาพเกมของผมยังไม่ถึงท็อปโฟร์โลก รวมถึงสภาพจิตใจด้วย แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีประสบการณ์มากขึ้น และส่วนนี้สำคัญมาก เพราะคุณต้องปรับตัวให้ถูกต้องเพื่อคงระดับนั้นเอาไว้ บางคนทำได้เร็วกว่าคนอื่น ตอนนี้ผมรู้สึกสบายใจกับทุกแง่มุมของเกมแล้ว นี่ทำให้สภาพจิตใจไม่ต้องทำงานหนักเกินไปแ ละมีพลังในการพัฒนาเกมของตัวเองอีกครั้ง ตอนนี้ผมรู้สึกดีกับเรื่องทั้งหมดนี้”
ทั้งนี้ รูน เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 2020 ตอนที่เขามีอายุเพียง 16 ปีก่อนจะคว้าแชมป์มาครองได้ 4 รายการมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมสถิติชนะ 132 แมตช์ และแพ้ 83 แมตช์ทุกรายการขณะที่เงินรางวัลรวมอยู่ที่ 10,009,211 ล้านดอลลาร์สหรัฐ