สตีเฟ่น เคอร์รี การ์ดซูเปอร์สตาร์ โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส แย้มว่า ตัวเองอาจจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในอนาคตหลังรีไทร์จากการเล่นบาสเกตบอลอาชีพ
สำหรับ เคอร์รี คือหนึ่งในผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอปัจจุบัน หลังเจ้าตัวพา วอร์ริเออร์ส คว้าแชมป์มาครองได้ถึง 4 สมัย (2015, 2017, 2018, 2022) นอกจากนั้นแล้วยังเคยซิวรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของลีก 2 สมัย (2015, 2016) รวมถึงติดทีมออลสตาร์ 10 สมัย (2014–2019, 2021–2024) เป็นต้น
และนอกจากการเล่นบาสเกตบอลอาชีพแล้ว เคอร์รี รวมถึงภรรยาใช้เวลานอกสนามทำงานเพื่อชุมชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับงานด้านการช่วยเหลือเยาวชนให้เข้าถึงอาหารที่โรงเรียนได้อย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ช่วงเหตุการณ์ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวสีที่ถูกตำรวจทำร้ายจนเกิดการเดินประท้วง “แบล็ก ไลฟ์ แมตเทอร์” นั้นผู้เล่นวัย 35ปีก็ออกมาแสดงจุดยืน และร่วมเดินขบวนด้วย
ล่าสุด เคอร์รี ให้สัมภาษณ์ว่า เขาอาจจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหลังจากรีไทร์จากการเล่นอาชีพโดยกล่าวว่า “คุณสนใจเรื่องการเมืองเหรอ?” ผมมีความสนใจในการใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของอิทธิพลของฉันในทางที่ ดีในแบบที่ฉันสามารถทำได้ ดังนั้นหากนั่นคือวิธีที่จะทำ (การเล่นการเมือง) ผมก็จะลองดู ผมไม่ได้หมายถึงตำแหน่งประธานาธิบดี” เขากล่าว และเสริมในภายหลังว่า “แต่ถ้าการเมืองเป็นวิธีที่คุณสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายได้ หรือหากมีวิธีอื่นนอกเหนือจากการเมืองที่เราสามารถทำได้ ผมก็จะทำ”
และย้อนไปเมื่อปี 2022 เคอร์รี เคยวิจารณ์ว่าการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีซึ่งมีนโยบายกีกดั้นผู้ลี้ภัยว่าเป็นภัยคุกคามของประเทศ “วาทกรรมส่วนใหญ่ของเขา ก่อนที่เขาจะเป็นประธานาธิบดี ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และแม้กระทั่งตอนนี้ หากเขาพยายามจะลงสมัครอีกครั้ง ก็มีน้ำเสียงของความแตกแยกที่ไม่มีที่ในประเทศของเรา”
นอกจากนั้นแล้ว เคอร์รี ยังแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ วอร์ริเออร์ส เดินทางไปที่ทำเนียบขาวหลังจากคว้าแชมป์ในสมัยที่ ทรัมป์ ยังเป็ประธานาธิบดีอยู่ แม้จะเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานว่า แชมป์เอ็นบีเอต้องไปเข้าพบกับประธานาธิบดี ก่อนที่สุดท้ายแล้ว ทรัมป์ จะทวีตยกเลิกการเชิญ “สะพานทอง” มาที่ทำเนียบ
