กลายเป็นข่าวเศร้าของแฟนบอลชาวเบลเยียมไม่น้อย เมื่อ เอเดน อาซาร์ด จอมทัพของ เรอัล มาดริด ประกาศอำลาทีมชาติเบลเยี่ยม หลังกระเด็นตกรอบ ฟุตบอลโลก 2022
เอเดน มิชาเอล วอลเตอร์ อาซาร์ด เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 1991 ที่เมือง ลา ลูวิเอเร ประเทศเบลเยียม ครอบครัวของเขาถือเป็นครอบครัวฟุตบอลอย่างแท้จริง โดย เธียร์รี อาซาร์ด คุณพ่อเคยเล่นเป็นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ส่วนคุณแม่ก็เป็นนักฟุตบอลหญิงในตำแหน่งศูนย์หน้า ขณะที่พี่น้องของเขา ธอร์กาน และ คีลิยัน ก็เป็นนักเตะอาชีพ และเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ เช่นกัน
เหตุผลที่ทั้ง เอเดน, ธอร์กาน และ คีลิยัน เลือกเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ ทั้งหมดเนื่องจากในวัยเด็กทั้ง 3 คนมี ซิเนดีน ซีดาน ตำนานแข้งฝรั่งเศสเป็นไอดอล โดยเด็กน้อยทั้ง 3 คน เคยร้องขอให้พ่อกับแม่ซื้อเสื้อฝรั่งเศสหมายเลข 10 มาใส่พร้อมกัน
เอเดน อาซาร์ด นั้นมีพรสวรรค์อย่างเต็มเปี่ยมสำหรับนักเตะที่วันหนึ่งจะก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลก เพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น คุณพ่อและคุณแม่ของเขาก็จับลงทะเบียนกับทีมเยาวชน รอยัล สเตด ไบรยอส โดยโค้ชของทีมเคยพูดถึง เอเดน ไว้ว่าเขาไม่รู้จะสอนอะไรเลย เพราะ เอเดน รู้ทุกอย่างหมดแล้ว
8 ปีต่อมา พ่อและแม่ของเขาต้องย้ายงาน ทำให้ อาซาร์ด ต้องตามคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย ก่อนจะได้ไปอยู่กับ ตูบิเซ และถูกแมวมองของ ลีลล์ เห็นเข้าและดึงมาร่วมทีมในปี 2005
กระทั่งอายุ 16 ปี ด้วยพรสวรรค์ ที่มีมากมาย ทำให้ อาซาร์ด ถูกจับขึ้นไปเล่นในทีมสำรองของ ลีลล์ สลับกับการได้ลงเล่นในชุดใหญ่ ก่อนจะทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของสโมสร ที่ยิงได้ในลีกเอิงฤดูกาล 2008/09 ที่เขาก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่อย่างเต็มตัว ซึ่งหลังจากนั้น ก็ลงสนามเป็นแกนหลักให้ทีมเรื่อยมา โดยยิงไปทั้งหมด 50 ประตูจาก 194 นัด คว้าแชมป์ลีกสูงสุด ในฤดูกาล 2010/11 และบอลถ้วย ในฤดูกาลเดียวกัน
ด้วยความยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามองของยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายต่อหลายทีม จนฤดูกาล 2012 ก็เป็นเชลซี ที่ทุ่มเงิน 32 ล้านปอนด์ ดึงตัวเขามาร่วมทีม
เมื่อมาถึงพรีเมียร์ ลีก อาซาร์ด ได้สร้างปรากฏการณ์ และพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, แชมป์ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2 สมัย, แชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย, แชมป์ลีกคัพ 1 สมัย และแชมป์ลีกคัพ 1 สมัย ทั้งยังได้รับรางวัลส่วนตัวอีกมากมาย
อย่างไรก็ตามหลังจากร่วมผ่านร้อนผ่านหนาวกับทีมมา 7 ฤดูกาล ยิงทั้งหมด 110 ประตูจาก 352 นัด ทำให้ อาซาร์ดเริ่มถึงจุดอิ่มตัว และตัดสินใจครั้งสำคัญย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2019/20
แต่การมาครั้งนี้ของ อาซาร์ด ดูเหมือนจะน่าผิดหวัง เขาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ และมีฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่เอามากๆ ทำให้ 4 ฤดูกาลที่ผ่านมากับ เรอัล มาดริด ทำได้เพียง 7 ประตูเท่านั้นจากการลงสนาม 72 นัด แม้จะถือว่าอยู่ในชุดแชมป์ ลาลีก้า 2019/20, 2021/22, แชมป์ ซูเปอร์โคปา เด เอสปันญา 2021/22, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2021/22 และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2022 ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทีมชาติเบลเยี่ยม อาซาร์ด ยังถือว่าเป็นผู้เล่นคนสำคัญ เขาติดทีมชาติมาตั้งแต่ ยู-15 และติดชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2008 ผลงานที่ดีที่สุดเลยคือพาเบลเยียม จบอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 แต่ถึง จะฟอร์มตกอย่างไร ในฟุตบอลโลกปี 2022 เขาก็ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีมในครั้งนี้
แม้ผลงานของเบลเยียม และอาซาร์ด จะไม่ได้อยู่ในจุดพีกสุดเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน แต่เชื่อว่าแฟนบอลจะยังรัก และยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะเบลเยียม ที่ดีที่สุดตลอดกาล แน่นอน