อเลเซ มิรานชุก ถือเป็นหนึ่งในขุมกำลังแนวรุกของอตาลันตา ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ เขาถือเป็นแข้งที่ช่วยมิติในแนวรุกให้กับทีมด้วยทักษะการเลี้ยงบอล และการจบสกอร์ที่เด็ดขาด
อเลกเซ อันเดรเยวิช มิรานชุก เกิดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1995 ที่เมือง สลาฟยานส์ก คูบานี ประเทศรัสเซีย เขามีฝาแฝดอีกคนที่ชื่อ แอนตอน มิรานชุก (ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับโลโคโมทีฟ มอสโค และติดทีมชาติรัสเซียเช่นกัน) ซึ่งตั้งแต่ยังเด็กทั้งคู่พี่น้องมักฝันถึงการที่พวกเขาติดทีมชาติรัสเซีย
เส้นทางสู่ความฝันของ มิรานชุก เริ่มต้นตอนอายุ 13 ขวบ เมื่อได้มีโอกาสเข้าสู่โรงเรียนฟุตบอลอย่าง Olymp Slavyansk-na-Kubani จากนั้น 2 ปีต่อมา เมื่อครอบครัวของเขาต้องย้ายเข้ามายังกรุงมอสโค ก็ทำให้เขาคัดเลือกเข้าสู่ทีมเยาวชนของ สปาตัก มอสโค
อย่างไรก็ตามเขาอยู่กับ สปาตัก มอสโค ได้ไม่ถึงปี ก็โดนถอดออกจากทีม เนื่องจากถูกระบุว่าสมรรถภาพทางร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้ โลโคโมทีฟ มอสโค ซึ่งไปพบกับพวกเขา 2 พี่น้องในภายหลังดึงตัวไปร่วมทีม
อเลกเซ มิรานชุก ตอบแทนความไว้ใจนั้น ด้วยการพา โลโคโมทีฟ มอสโค คว้าแชมป์ลีก เยาวชนถึง 3 สมัย โดยในปี 2012 เขาเป็นผู้ยิง 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอีกด้วย
มิรานชุก เติบโตขึ้นมาจนอายุได้ 17 ปี เขาก็ได้เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ และค่อยๆพัฒนากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม โดยตลอดระยะเวลา 8 ฤดูกาลกับ โลโคโมทีฟ มอสโค เขาประสบความสำเร็จมากมาย โดยคว้าแชมป์ลีกรัสเซีย 1 สมัย, แชมป์ รัสเซีย คัพ 3 สมัย และแชมป์รัสเซีย ซูเปอร์ คัพ อีก 1 สมัย จากผลงานลงสนาม 228 นัด ยิง 43 ประตู
ฤดูกาล 2020/21 เป็น อตาลันตา ในเซเรีย อา อิตาลี ที่ทุ่มเงิน 15 ล้านยูโร ดึงตัวเขาไปร่วมทีม โดยผลงานของ มิรานชุก ถือว่าไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ทำให้เมื่อเล่นไป 2 ฤดูกาล เขาก็ถูกปล่อยตัวไปให้ โตริโน ยืมตัว ในฤดูกาล 2022/23
ล่าสุดในฤดูกาล 2023/24 มิรานชุก กลับมาลงเล่นให้กับ อตาลันตา อีกครั้ง ก่อนจะมาด้วยผลงานที่ดีขึ้น เขาได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง โดยเล่นไปแล้ว 35 นัด ยิงไป 4 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ
ขณะที่กับทีมชาติรัสเซีย เขาติดชุด ยู-17 ตั้งแต่ ปี 2012 ก่อนจะพัฒนาขึ้นมาในทีม ยู-19 และ ยู-21 กระทั่งปี 2015 ก็ถูกเรียกติดทีมชาติรัสเซีย ชุดใหญ่ โดยปัจจุบันลงเล่นไปแล้ว 44 นัด ยิงไป 7 ประตู
ทั้งหมดนี่นับเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่น่าสนใจ จากทัพอตาลันตา และทีมชาติรัสเซีย ในยุคนี้
